เวลาผ่านไปแล้วเกือบสองปี ที่ศาสตราจารย์ ดร . กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติปี 2540 สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรมและสื่อผสม และยังเป็นศิลปินที่ได้รับการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ ที่ท่านได้ฝากผลงานปฏิมากรรมเหล็กรูปพญานกอินทรีอันโดดเด่นตั้งเป็นสง่าอยู่หน้า “อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐”แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ท – เชียงใหม่!!!
งานประติมากรรมนกอินทรีมีความสูงยี่สิบสองฟุต และเป็นงานชิ้นเดียวในโลกของ ดร.กมล ทัศนาญชลี ที่สร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาแบบไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
ทั้งนี้ ดร.กมล ได้กล่าวว่า “ขอฝากงานประติมากรรมชิ้นนี้ ไว้เป็นทรัพย์สมบัติของจังหวัดเชียงใหม่” โดยที่ท่านมิได้เรียกร้องค่าผลงานใดๆทั้งสิ้น ซึ่งโดยปกติแล้วงานประเภทนี้หาค่ามิได้ และยังได้ประเมินกันว่า “เฉพาะงานออกแบบเพียงอย่างเดียวของดร.กมล ทัศนาญชลี จะเป็นเงินอย่างต่ำที่สุดหนึ่งล้านบาท”
ขณะที่มีการดำเนินการก่อสร้างเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มๆ โดยดร.กมล ซึ่งมีภารกิจมากมาย แต่ท่านก็ยังปลีกเวลาไปติดตามดูผลงานถึงสองครั้ง และได้มอบหมายให้ศิลปินคู่ใจที่เปรียบเสมือนมือขวาของท่านคือ “อาจารย์พีระพงษ์ บัวแก้ว” จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้ามาช่วยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
อีกทั้งงานประติมากรรมชิ้นนี้ ได้สร้างแล้วเสร็จทันกับงานแข่งขันระดับโลกที่ได้จัดขึ้นอย่างอลังการนั่นก็คือ การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยโลก (Weight Lifting Championship World University)ที่มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพในนามของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักกีฬากว่าสามร้อยคนจากกว่าสามสิบประเทศ ที่ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ธันวาคม 2514 และได้มีการถ่ายทอดสดในการแข่งขันไปทั่วโลกที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างสูงอีกด้วย!!!
ทั้งนี้งานประติมากรรมนกอินทรีนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสามปีก่อน ครั้งที่ดร . กมลและคณะศิลปินชั้นนำของไทยได้เดินทางไปเยือนผมที่มหาวิทยาลัยฯ หลังจากที่เราทั้งสองไม่ได้พบกันเสียนาน
แต่ในด้านความผูกพันของกัลยาณมิตรยังคงมีเหนียวแน่น ที่ผมและดร . กมลร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมไทยหลายครั้งหลายครา เริ่มตั้งแต่สมัยที่เราทั้งสองยังเป็นนักศึกษาหนุ่มละอ่อน แถมเราทั้งคู่ต่างก็เป็นนักกิจกรรมเพื่อชุมชนในนครลอสแอนเจลิสเช่นเดียวกันอีกด้วย
โดยครั้งที่ดร . กมลและคณะศิลปินชั้นนำของเมืองไทยเดินทางไปเยี่ยมเยือนผมที่เมืองเชียงใหม่ ณ มหาวิทยาลัยนอร์ท – เชียงใหม่ นั้น ท่านอธิการบดี ดร . ณรงค์ ชวสินธุ์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฯได้ปรารภก่อนที่ดร . กมลจะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาว่า “ อยากให้ ดร . กมลช่วยเสก็ตร่างแบบนกอินทรีให้ ” เนื่องจากนกอินทรีเป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยนอร์ท – เชียงใหม่ นั่นเอง !!!
ท่านอธิการบดี ดร . ณรงค์ มีความชื่นชมในเรื่องราวของนกอินทรีเป็นอย่างมาก เพราะนกอินทรีงามสง่า แข็งแรง บินเร็วถือเป็นราชาของนกทั้งหลาย
อย่างไรก็ตามนกอินทรีมีวิธีเลี้ยงลูกที่แปลก โดยก่อนวางไข่แม่นกพ่อนกจะช่วยกันสร้างรัง บนชะง่อนผาที่สูงชัน ยากสิ่งที่รบกวนได้ ปลอดภัยจากสัตว์ร้ายอื่นๆรวมทั้งมนุษย์ด้วยโดยมีการการสร้างรังห้าชั้นด้วยกัน
ชั้นที่หนึ่งจะเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ๆ วางล้อมกรอบเป็นวงขนาดพอตัว
ชั้นที่สองจะเป็นท่อนไม้โตๆวางไขว้กันไปมาให้แข็งแรง
ชั้นที่สามจะเป็นหนามขนาดใหญ่วางพาดระหว่างท่อนไม้ซ้อนไปมา
ชั้นที่สี่จะเป็นใบไม้วางหนาๆเพื่อป้องกันหนามที่แหลมคมและเป็นพื้นนอนได้
ชั้นที่ห้าแม่นกจะจิกขนอ่อนที่อกของตนเพื่อให้เกิดที่นอนนุ่มๆสำหรับลูกอ่อน
พอสร้างเสร็จทั้งห้าขั้นตอนแล้ว แม่นกอินทรีก็ได้วางไข่ราวสามถึงห้าฟองแล้วกกไข่เป็นเวลาพอสมควรจนไข่ฟักออกมาเป็นตัวลูกนกอินทรีตัวเล็กๆ เสียงเจื้อยแจ้วน่ารัก
พ่อนกแม่นกช่วยกันหาอาหารมาป้อนลูกน้อยจนเติบโต
ทั้งนี้ในขั้นสุดท้ายแม่นกอินทรีจะฝึกสอนให้ลูกนกหัดบินและสอนให้เข้มแข็งทรหดอดทน พร้อมที่จะช่วยเหลือตัวเองจนสามารถบินผละออกไปจากอกของพ่อแม่นกได้!!!
ท้ายสุดของบทความสัปดาห์นี้ ผมใคร่ขอกล่าวคำขอบคุณ “ดร.กมล ทัศนาญชลี” ในความเป็นกัลยาณมิตรที่ท่านมีให้แก่ผมอย่างเต็มเปี่ยม และขอกล่าวชื่นชมที่ท่านได้เสียสละเวลาอันแสนจะมีค่าทุ่มเทสร้างงานประติมากรรมพญานกอินทรีแกร่ง…แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ให้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่สมดั่งที่ท่านมีความตั้งใจมา ณ ที่นี้ด้วยละครับ.
ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย