ในบทความในหัวข้อเรื่อง “จากชีวิตสามล้อถีบมุ่งสู่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน” ที่เกี่ยวกับชีวิตของ ดร.อุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัท “นิ่มซี่เส็ง” ซึ่งเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่กว่าหมื่นล้านบาทแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่ผมได้เสนอเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2017 ใน นสพ.สยามมีเดียปรากฏว่าได้กลายเป็นบทความฮิตมากที่สุดบทความหนึ่ง
สำหรับบริษัทขนส่งในเครือนิ่มซี่เส็งนั้น มีอยู่ 3 บริษัทด้วยคือ นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 มุ่งเน้นในตลาดเขตภาคเหนือตอนบน
สำหรับนิ่มเอ็กซ์เพรสเน้นตลาด แบบจัดส่ง พัสดุด่วนทั่วประเทศ
ส่วนบริษัท นิ่มโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการจัดส่งสินค้าธรรมดาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ดร.อุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่เพิ่งผ่านมานี้
และเมื่อผมรายงานให้ท่านอธิการบดี ดร. ณรงค์ ชวสินธุ์ ได้ทราบว่า บทความฉบับนั้นมีท่านผู้อ่านติดตามกันเป็นอย่างมาก ท่านได้ให้ข้อคิดว่า ในเมื่อ ดร.อุทัต เป็นนักธุรกิจระดับสากล ก็ควรแปลบทความซึ่งเป็นชีวประวัติของท่านอุทัตฉบับย่อๆเป็นภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน!!!
ส่วนการแปลเป็นภาษาจีนนั้น ผมได้รับความเมตตาจาก “ดร. ภัทรภณ ศิลารักษ์” มาช่วยเหลือในภาคภาษาจีน โดยอาจารย์หนึ่งจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก จากกรุงปักกิ่ง และขณะนี้เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยการจัดการและวิศวกรรมจีน ณ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ซึ่งผมทำหน้าที่แปลภาคภาษาอังกฤษ
เมื่อมีการเรียงพิมพ์บรรจุใส่
กรอบอย่างสวยงามเรียบร้อยแล้ว ท่านอธิการฯ ดร.ณรงค์และผมเดินทางไปมอบให้กับดร.อุทัตเมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคมนี้ เพื่อเป็นของที่ระลึก
อนึ่งในการเยือนดร.อุทัต ในครั้งนี้ ท่านได้แบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนส่งให้เราทั้งสองได้ประดับเป็นความรู้
โดยท่านอุทัตได้เล่าให้ท่านอธิการฯและผมฟังว่า ขณะนี้การหาพนักงานขับรถแสนจะยากลำบากมากทีเดียว และขณะนี้ในบริษัทขนส่งนิ่มซี่เส็งของท่านมีพนักงานขับรถทั้งหมดถึงหนึ่งพันกว่าคน!!!
และสิ่งที่น่าชื่นชมในบริการด้านขนส่งของนิ่มซี่เส็งก็คือ มีกฎเหล็กโดยห้ามไม่ให้พนักงานขับรถดื่มสุราและสูบบุหรี่ขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย และหากพนักงานคนใดฝ่าฝืนก็จะถูกปลดออกไปทันที
อีกทั้งดร.อุทัตเล่าต่อไปอีกว่า รถขนส่งต้องมีสภาพดีตลอดเวลา เพราะหากรถเกิดเสียขึ้นมาระหว่างทางก็จะสร้างความเดือดร้อนกระทบต่อเนื่องกันไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่ต้องการสินค้าจำพวกผักและอาหารสด การตรงต่อเวลาจึงจำเป็นต้องเคร่งครัดอย่างมาก!!!
ดร.อุทัตกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า เนื่องจากบริษัทเข้มงวดทางด้านจรรยาบรรณ จึงทำให้พนักงานขับรถไม่เคยสร้างปัญหาหรือเกิดอุบัติเหตุใหญ่โตปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เลย
เท่ากับว่าเป็นผลดีต่อสังคมและยังสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนอีกด้วย
ทั้งนี้ท่านอธิการบดี ดร.ณรงค์ได้เสนอว่าทางมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ยินดีที่จะเปิดหลักสูตรเพิ่มทักษะรู้เรื่องรถยนต์และการบำรุงรักษาเครื่องยนต์พร้อมกฎหมายและกติกาเกี่ยวกับการขับรถด้านความปลอดภัยและอบรมทักษะเรื่องมารยาทเพิ่มเติมให้กับพนักงานของบริษัทนิ่มซี่เส็ง โดย ดร.อุทัตตอบรับว่า จะนำไปพิจารณา
อนึ่งผมพบว่า ขณะนี้การบริการด้านขนส่งในเมืองไทย นับว่ามีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากขึ้นทุกทีๆ
เท่าที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ ได้มีบริษัทขนส่งต่างชาติเข้ามาให้บริการอย่างมากมาย ดังเช่น UPS, DHL, FedEx, TNT, Kerry, Lasada Express, Yamato, Sagawa, Nipon Express, LinFox, Schenker และ TOLL เป็นต้น
โดยภาพรวมแล้ว อุตสาหกรรมการขนส่งของประเทศไทยยังคงมีข้อจำกัดทั้งด้านการแข่งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเงินทุนหรือแหล่งเงินทุน ที่จะต้องนำมาจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์รวมไปถึง รถบรรทุก, สายพานลำเลียง, เครื่องยกสินค้าระบบสูญญากาศ, อุปกรณ์และเครื่องทุนแรงต่างๆ
นอกจากนั้นยังจะต้องมีระบบและระเบียบทางด้านการบริหารจัดการ และที่จำเป็นอย่างยิ่งก็คือ ด้านศักยภาพของบุคลากรอีกด้วย
เนื่องจากอุตสาหกรรมขนส่งทั้งหมดที่มีอยู่ของประเทศไทยที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งรวมถึงกรมไปรษณีย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของความมั่นคงในประเทศไทยของเรา ฉะนั้นภาครัฐควรจะเร่งรัดให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านการขนส่งโดยรีบด่วน กล่าวคือ ช่วยส่งเสริมด้านจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยจัดมาตรการด้านภาษีการนำเข้าเทคโนโยลี เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบบริหารจัดการ ช่วยสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ให้ดียิ่งๆขึ้น
ทั้งนี้ผมได้แต่หวังใจเอาไว้ว่า รัฐบาลไทยควรหันมาพิจารณาและยื่นมือเข้ามารองรับการให้ความช่วยเหลือเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมด้านการขนส่งของไทยมีการพัฒนาให้เข้มแข็งจนสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างงามสง่าละครับ.
โดย ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย